วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

[D E M O N S] 49 [H 20+]




















หลังจากที่คุณนายโอเดินออกไปแล้วฉันจึงถอนหายใจออกมาแรงๆ คราวนี้ฉันตกม้าตายเพราะคำพูดตัวเองแท้ๆ ทั้งงานแต่ง ชุด แขกในงาน พูดออกมาเองทั้งนั้น โอ๊ย อยากจะบ้าตาย ทำไมฉันต้องเป็นรองแม่เขาตลอดเลยนะ




กว่าจะรู้ตัวว่าโดนหลอกให้พูดก็สายไป




แกร็ก.




“ล็อคทำไม”

” เขาถอดเสื้อสูทออกก่อนจะมองฉันนิ่งๆ อย่าบอกนะว่าคิดจะทำอะไรแปลกๆในนี้น่ะ

“ในนี้ไม่ได้นะ นี่ห้องทำงาน”

“ที่ไหนก็ได้ถ้าจะทำ”

“นายจะบ้าหรือไง กระจกล้อมรอบขนาดนั้น ไม่กลัวว่าใครจะเห็นหรอ” ฉันลุกหนีเมื่อเซฮุนเดินเข้ามาหาแต่กลับถูกเขาดึงไว้ซะก่อน “บอกว่าไม่ได้ไง”

“ใครจะเห็น” อย่าทำเหมือนรู้ทันสิ ก็รู้อยู่หรอกว่ามองจากข้างนอกไม่เห็นน่ะ แต่มองจากข้างในมันก็เห็นข้างนอกหมดไหมล่ะ สูงก็สูง ไหนจะตึกฝั่งตรงข้ามอีก “กลัวอะไร”

“ใครจะใจกล้าเหมือนนาย ห้ามทำบ้าๆนะเซฮุน ไม่งั้นฉันจะโกรธจริงๆด้วย”

“ใครควรโกรธมากกว่าวะ”




เขาจับฉันเปลือยเปล่าก่อนจะผลักให้นอนราบไปกับโซฟาแล้วกดทับไว้ ดวงตาอีกคนจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าฉันก่อนจะค่อยๆโน้มเข้ามาใกล้ เขากดริมฝีปากไปตามลาดไหลก่อนจะขยับมายังซอกคอและหยุดอยู่ที่ใบหู




“หมอเธอบอกว่าไงนะ” ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดอยู่แถวๆนั้นทำเอาสติฉันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเซฮุนจูบย้ำๆจนฉันหดคอหนีแทบไม่ทัน “พูดสิ”

“หมออะไรเล่า อ๊า อย่าเม้ม”

“เธอบอก

“ฉะ ฉันแต่งเรื่อง”

“โกหกผู้ใหญ่” แล้วอีกคนก็เลื่อนหน้ามายังแก้มฉันก่อนจะกดจูบไปมา “นิสัยไม่ดี”

“ไม่ทำได้ไหม ฉันอาย” ฉันบอกเมื่ออีกคนยกตัวขึ้นนั่งทับบนหน้าตักเปลือยเปล่าของเขา “นะเซฮุน คนนี้ขอร้อง”

“หลอกแม่ได้อย่าคิดว่าหลอกฉันได้สิ”

“เอ่อ

“ทำแบบนี้บ่อยๆจะติดเป็นนิสัยนะฮายู”

“ก็รู้ แต่เฮ้อ” จะก้มหน้าสำนึกผิดก็อายเกินกว่าจะมองอะไรๆของเราที่มันเบียดทับกันอยู่ ฉันซบหน้าลงกับไหล่กว้างของอีกคนแล้วกอดรอบคอเขาไว้ “ขอโทษนะ แค่อยากหาทางออกเอง”

“รู้ว่าไม่ดีอย่าทำ”

“กลัวแม่ดุนี่น่า” เขาลูบหัวฉันเบาๆก่อนจะยกสะโพกฉันขึ้น “เดี๋ยวๆอ๊ะ อื้อ!

“มันคนละเรื่องกับที่เธอใส่ร้ายฉัน” เซฮุนกดสะโพกฉันลงรับความเป็นเขาช้าๆจนตั้งตัวไม่ทัน มันทั้งจุกและเจ็บตรงปากทางเข้าจนฉันเผลอกัดไหล่อีกคนเป็นรอยแล้วฟาดฝ่ามือลงบนอกเขาแรงๆ

“นายมันบ้า อ๊า!

“หมอบอกต้องนุ่มนวล?”

“มะ ไม่” บอกว่าโกหกทำไมไม่ฟัง “อื้อ”

ฉันครางอื้ออึงเมื่ออีกคนสวนสะโพกขึ้นมาจากด้านล่าง เขาทำเหมือนนุ่มนวลแต่มันกลับไม่ใช่เลย แรงสอดกระแทกแต่ละครั้งทำเอาฉันผวากอดเขาไว้แน่น มันทั้งจุก ทั้งอึดอัด ฉันลูบหลังอีกคนขอให้เขาเบาลงกว่านี้แต่ไม่เลย เซฮุนกำลังแกล้งฉันอย่างสนุก

“เบาๆ”

“ทำอยู่”

“ไม่สักนิด ฮือ อ๊า” เขาค่อยๆขยับช้าๆก็จริงแต่แรงตอกอัดแต่ละทีทำเอาฉันหายใจไม่ออก จะขยับเองอีกคนก็ยึดสะโพกฉันไว้แน่นแล้วควบคุมมันด้วยตัวเอง “จุกนะ”

“ลงโทษ”

“งั้นรีบทำเลย” ฉันผละออกจากไหล่เขาแล้วตะคอกใส่หน้า เซฮุนเลิกคิ้วขึ้นอย่างกวนๆแล้วส่ายหน้าช้าๆ “ฮือ ทำแบบนี้ฉันทรมานนะ” ฉันบอกอ้อนๆแต่อีกคนกลับเฉย ดูเหมือนว่าคราวนี้ฉันจะเล่นกับเขาผิดเรื่อง

“จำยัง”

“จำแล้ว”

“แน่ใจ?” ถามอย่างเดียวไม่ได้หรือไง ทำไมต้องย้ำข้างล่างด้วย ฉันรู้สึกหัวหมุนยังไงไม่รู้

“อ๊า! อือ นายแรงๆก็ได้ แต่ ยะ อย่า ทำแบบนี้ อึดอัดนะ”

“หมอบอกให้นุ่มนวล


ฆ่าฉันเถอะเซฮุน


นุ่มนวลของอีกคนคือช้าๆ แต่ช้าของเขาไม่ได้มีความหมายแบบเดียวกันกับฉันสักหน่อย ฉันจิกเล็บลงบนไหล่อีกคนก่อนจะจูบลงบนริมฝีปากเขาอย่างเอาใจ ยังไงก็ได้ ฉันทำหมดขอแค่อีกคนรีบจบๆมันสักที

เซฮุนบีบขย้ำสะโพกฉันอย่างแรงเหมือนเป็นเขาเองที่ทนไม่ได้แต่ก็ยังคงระดับสอดกระแทกไว้อย่างเดิม เขาจูบตอบกลับมาอย่างดูดดื่มก่อนจะสอดแขนเข้ามาใต้ขาฉันแล้วยึดสะโพกไว้ ฉันหวีดร้องในลำคอเมื่ออีกคนยกตัวฉันขึ้นจากโซฟาโดยที่เรายังไม่ผละออกห่างจากกันแม้แต่น้อย

“อ๊า อะ ไม่เอา อย่าไป เซฮุน อื้อ”

“รัดยิ่งกว่าเดิม”

“ไอ้บ้า บอกว่าอย่ามา”

“ทำไม ตื่นเต้น?” จะตีก็กลัวว่าจะตกลงพื้น ฉันกอดรอบลำคออีกคนไว้แน่นก่อนจะเย็นไปทั้งแผ่นหลังเมื่ออีกคนดันตัวฉันชิดกับกระจกด้านหลังโต๊ะทำงาน “เสียวไหม”

“ฉันโกรธนายแล้ว!” ฉันบอกทั้งๆที่อยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ

“ตึกนู้นมีคนจิบกาแฟอยู่”

“หยุดพูดนะ”

“เขามองมา”

“บอกให้หยุดไง!” ฉันจูบปิดปากอีกคนแล้วกัดริมฝีปากเขาแรงๆอย่างเอาคืนไม่ปล่อยให้เซฮุนพูดอะไรน่าเกลียดออกมา รู้ไหมว่าฉันจินตนาการไปถึงไหนต่อไหนแล้ว “อื้อ!!

เขายึดสะโพกฉันไว้แน่นแล้วขยับตัวตนแข็งขืนที่ขยายใหญ่มากกว่าเดิมเข้าออกช้าๆ ฉันผละจูบออกเมื่อหายใจไม่ทันก่อนจะครางเสียงหลงเมื่อเขาเดินไปยังอีกมุมที่เป็นกระจกเช่นกัน จากตรงนี้ฉันมองเห็นตัวเองผ่านกระจกอีกทางที่กำลังถูกเซฮุนแกล้งอย่างชัดเจน

“อ๊า อะ อื้อ ลึก”

“จำยัง”

“อื้อ ไม่ทำแล้ว อ๊า!

เขาดันหลังฉันให้ชิดกับกระจกอีกครั้งก่อนจะขยับสะโพกเข้าออกถี่รัว ฉันไม่มีทางขยับหนีจากเขาไปไหนได้ ยอมรับแรงกดกระแทกอย่างรุนแรงที่อีกคนส่งเข้าออกไม่หยุด ฉันจิกเล็บลงบนไหล่เซฮุนเมื่อเขาย้ำตรงจุดเดิมๆที่ทำให้ฉันแทบบ้า

“อะ อ๊ะ หยุดก่อน ตรงนั้น ฉะ ฉัน

“จะได้จำ”



ไม่ฟัง!


ฉันน้ำตาซึมเมื่อเซฮุนยังย้ำจุดเดิมลึกๆ แรงเสียดแทงเข้าออกเร็วมากจนรู้สึกปวดไปรอบๆตรงที่เราเชื่อมต่อกัน ฉันกรีดร้องออกมาไม่หยุดเมื่อเขาส่งตัวตนตอกอัดเข้ามาแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

“อ๊า! อะ อ๊ะ อื้อ”

“อือ

อีกคนก้มหน้าลงงับยอดอกฉันก่อนจะดูดมันค้างไว้ ด้านล่างรุนแรงซะจนฉันได้ยินเสียงเนื้อหนังของเราสองคนอย่างชัดเจน ฉันกอดเซฮุนไว้แล้วซุกหน้าลงบนอกเขาอย่างหาที่พึ่งจนสุดท้ายเราก็ปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน อีกคนขยับเข้ามาลึกถึงด้านในสุดกดแนบความเป็นเขาและฉันไว้แน่น

ความร้อนพุ่งเขามาอยู่ลึกที่สุด ฉันบีบเค้นความเป็นเขาถี่รัวร่างกายกระตุกครั้งแล้วครั้งเล่าจนหยุดไป เซฮุนขยับเข้าออกช้าๆเพื่อให้ฉันรับเข้าไปจนหมด จากนั้นก็พาฉันกลับมานั่งที่โซฟาเหมือนเดิมโดยที่ไม่ผละออกห่างแม้แต่นิดเดียว

“จะทำอีกไหม”

“มะ ไม่แล้ว” ฉันหอบหายใจบอกอีกคนออกไปแล้วซุกหน้าลงที่เดิม เขาควรเหนื่อยแต่กลับเป็นฉันที่เหนื่อยจะเป็นจะตาย อาจจะเพราะผิดท่าเลยทำให้ไม่ชินแต่นั่นใช่เรื่องที่ฉันต้องคิดไหม “คนอื่นจะเห็นเราหรือเปล่า”

“ไม่ครับ”

“ฮือ นายทำฉันอับอาย”

“บอกว่าไม่เห็นไง”

“แต่ก็อายอยู่ดี”

“ข้างในไม่บอกแบบนั้น” ฉันเงยหน้าขึ้นจากไหล่เขาก่อนจะฟาดฝ่ามือลงแรงๆ ทำไมทะลึ่งแบบนี้นะ “หรือไม่จริง”

“ไม่จริง ฉันกลัวต่างหาก เอามือออกเลยนะฉันจะไปล้างตัว”

“ใครบอกให้ล้าง”

“มันเหนอะหนะ ปล่อย” บอกพร้อมทั้งตีมือออกแต่อีกคนก็ยังกอดรัดสะโพกฉันไว้เหมือนเดิม “เซฮุน!

“ขออีกรอบ”

“เร็วๆเลย









กลับไปหน้าบทความ → https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1466337&chapter=53